"ต่าย" ลุยจีบ "ริต้า" หยอดใครได้เป็นแฟนโชคดี

ต่าย-ณัฐพล รับสนิท ริต้า คุยแล้วรู้สึกดี แต่เป็นเพื่อนไปก่อน ระบุไม่รู้ตนศึกษาริต้าฝ่ายเดียวหรือเปล่า ด้าน ริต้า ยันต่ายเป็นเพื่อนกันเท่านั้น...

ตั้งแต่โกนหัวเข้าร่มกาสาวพัสตร์ แล้ว ก็ถูกมองว่า ทิดต่าย-ณัฐพล ลียะวณิช บวชเตรียมเบียดนางเอกสาวที่ตกเป็นข่าวด้วยอย่าง ศรีริต้า เจนเซ่น หรือเปล่า ยิ่งเจ้าตัวยังเคยเปรยๆไว้ด้วยว่า หลังบวชค่อยพูดเรื่องนี้ นักข่าวนับวันรอเลย จนรู้ข่าวว่า ต่าย สึกแล้ว และได้เจออีกครั้งในวันงาน Anywhere Travel By Central World จึงไม่พลาดที่จะทวงคำตอบเรื่อง ริต้า "ก็เรื่อยๆครับ เป็นคนสนิทกันครับ ก็สนิทที่สุดในตอนนี้ แต่ถ้าถามว่าเป็นแฟนหรือเปล่า ผมว่ามันยังไม่มีอะไรที่จะเรียกว่าแฟนได้ เป็นเพื่อนกันไปก่อน แต่เป็นอะไรที่รู้สึกดี ก็ไม่รู้นะว่าศึกษากันหรือเปล่า แต่ว่าคุยกันแล้วแฮปปี้" ประทับใจริต้าตรงไหน? "เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี เป็นคนน่ารัก เป็นคนที่ผมว่าใครเป็นแฟนไม่น่าที่จะต้องห่วงเรื่องที่จะไปยุ่งกับใคร เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัว ไม่ยุ่งกับใคร ถามว่าผมสนใจเขามั้ยก็สนใจนะ ณ ตอนนี้ แต่ตั้งแต่ สึกมาเนี่ยยังไม่เจอกับเขาเลย" เรียกว่าแฟนได้มั้ย? "ไม่รู้จะเรียกได้มั้ย คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถามว่าสนิทกันมั้ยก็สนิทกัน ผมไม่รู้ ตกลงว่าผมศึกษาเค้าฝ่ายเดียวหรือเปล่า หรือว่าเค้าก็ศึกษาผมด้วย แต่ว่าคุยกันก็รู้สึกดีครับ เอาเป็นว่าถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่เดี๋ยวผมบอกแน่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรขนาดนั้นครับ" แล้วเรื่องที่ต่ายเคยบอกว่าจะพูดถึงริต้าหลังจากสึกแล้วล่ะ หมายความว่ายังไง? "ไม่มีนะครับ คือเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องแถลง ถ้าทุกอย่างมันลงตัว เป็นอะไรที่แน่นอนแล้ว ผมพูดแน่นอนอยู่แล้ว แต่มันเป็นเรื่องของคน สองคนไง ผมพูดคนเดียวไม่ได้"

ด้าน ริต้า ก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวที่ว่า ต่าย จะแถลงข่าวเกี่ยวกับตนหลังจากสึกว่า "ไม่รู้เรื่องนี้เลยนะ ตั้งแต่เขาสึกออกมาก็ยังไม่ได้เจอกันเลยค่ะ ก็ทราบค่ะว่าเขาสึกแล้ว แต่ยังไม่ได้ คุยยังไม่ได้เจอกัน ช่วงเขาบวชก็เคยไปถวายอาหารเพลบ้าง แต่ไม่เคยไปตัก บาตรนะ แต่ไม่มีอะไรนะ เราเป็นเพื่อนกันค่ะ" แล้วเรื่องที่มี ผกก.หนังฝรั่งตามจีบอยู่ล่ะ? "ตามจีบไปเล่นหนังน่ะสิ ไม่ได้จีบแบบนั้นค่ะ หนังค่อนข้างน่าสนใจ แต่คิวริต้าไม่มี".


คิดอะไรไม่ออกให้ล้มตัวงีบหลับ นอนขบปัญหาออก

สื่อเมืองผู้ดี ตีข่าวผลวิจัย ระบุ การนอนหลับทับปัญหา และยิ่งถึงกับฝันได้ก็ยิ่งดี จะช่วยนึกแก้ปัญหาออกได้ เพราะการนอนช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์...

นักวิจัยมหาวิทยาลัยแค ลิฟอร์เนียแห่งสหรัฐฯ บอกหนทางสวรรค์ให้ว่า  หากพบปัญหาปวดหัว ก็ไม่ต้องกลุ้มอกกลุ้มใจให้รีบงีบหลับไปเลย พอลืมตาตื่นขึ้นก็จะคิดออกเอง

หนังสือ พิมพ์รายวัน "เดอะ เดลี่ เทเลกราฟ" มีชื่อเสียงเมืองน้ำชา รายงานข่าวเรื่องนี้ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ระหว่างชาติ ซึ่งมีศาสตราจารย์ซารา เมดริค มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเป็นหัวหน้า ได้พบว่า การนอนหลับทับปัญหา และยิ่งถึงกับฝันได้ก็ยิ่งดี จะช่วยนึกแก้ปัญหาออกได้จริงๆ เพราะการงีบหลับจะช่วยให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ดีขึ้น  ช่วยให้คิดนอกกรอบกว้างและไวขึ้น  ยิ่งฝันได้ยิ่งดีใหญ่ ยิ่งจะช่วยให้ คิดออกขึ้น"

รายงานผลการศึกษา เสนอในวารสารวิชาการของสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯกล่าวว่า อาจารย์เมดริกได้ระบุว่า "เราพบว่า เวลาจะช่วยแก้ ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ของงานที่ทำอยู่เองแต่ถ้าหากเป็นปัญหาใหม่ๆ จะต้องให้เป็นระหว่างการนอนหลับระยะที่สอง ที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นเท่านั้น จึงจะเกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้น".

นพดลโต้ไร้สาระ กุข่าวทักษิณเปลี่ยนชื่อ

Pic_11525

ยัน ยังใช้ชื่อเดิม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ เหตุเดินทางไปไหนก็มีคนรู้จัก จำหน้าได้ เผยทักษิณยังหลบอยู่ที่เมืองดูไบ ด้านก.ต่างประเทศแฉยันทักษิณถูกยกเลิกวีซ่าเชงเก้นจริง เชื่อเยอรมนีคงจะไม่ให้ทักษิณเดินทางเข้าประเทศอีกแล้ว...

นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (8มิ.ย.) ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุพ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อปลอมในการเดินทางไปต่างประเทศว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อเดิมทุกครั้ง ไม่เคยเปลี่ยนชื่อในการเดินทาง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปไหนก็มีคนรู้จัก จำหน้าได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ ทั้งนายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องมาสอบเรื่องนี้

“การที่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางไปที่ใดก็ได้โดยสะดวก ไม่ติดขัด เนื่องจากต่างประเทศเข้าใจและเห็นใจพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกเล่นงานจากเกมการ เมืองในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี และนายกษิตควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปราสาทเขาพระวิหารดีกว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังอยู่ที่เมืองดูไบ ส่วนกรณีที่ประเทศเยอรมนีถอนวีซ่าเดินทางเข้าประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น เนื่องจากวีซ่าเข้าเยอรมนีของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประทับตราในพาสปอร์ตของไทย แต่เมื่อทางการไทยยกเลิกพาสปอร์ตเล่มดังกล่าว ส่งผลให้วีซ่าเข้าเยอรมนีต้องยกเลิกไปโดยปริยาย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ”นายนพดล กล่าว

ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และโฆษกฝ่ายการเมืองของกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ระบุว่าวีซ่าเข้าเยอรมนีของพ.ต.ท.ทักษิณถูกยกเลิกไปโดยปริยาย เมื่อทางการไทยยกเลิกพาสปอร์ตของไทยที่ออกให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนได้ตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยแล้ว และได้รับแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางเข้าประเทศเยอรมนีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 โดยใช้พาสปอร์ตนิคารากัวและใช้วีซ่าเชงเก้น เดินทางผ่านจากประเทศฝรั่งเศสเข้าไปอยู่ที่เยอรมนีเป็นเวลา 2 วัน ทั้งนี้หากเป็นการเดินทางโดยทางรถยนต์ จะไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นทางเยอรมนีจะไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามาได้อย่างไร ผ่านทางไหน โดยทางเยอรมนีเพิ่งตรวจพบเมื่อเดือนเมษายนปี 2552 ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามา หลังจากได้ยินข่าวดังกล่าวแล้วจึงได้ยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณ

“ การที่นายนพดลระบุว่าทางการเยอรมันไม่ได้ยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถูกยกเลิกไปเพราะทางการไทยยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ทางเยอรมันยังยืนยันว่าได้ให้ความสัมพันธ์สูงสุดกับความสัมพันธ์ ของสองประเทศ เห็นได้จากการที่มีการยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณที่พบเป็นข่าว ก่อนที่จะแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ”นายชวนนท์ กล่าว

ผู้ สื่อข่าวถามว่าทางการเยอรมนีได้ยืนยันกับฝ่ายไทยหรือไม่ว่า หลังจากนี้จะไม่มีการออกวีซ่าเชงเก้นให้กับพ.ต.ท.ทักษิณอีกต่อไป นายชวนนท์ กล่าวว่า เขาไม่ได้พูดแบบนั้น แต่เชื่อว่าน่าจะตีความได้ว่าทางเยอรมนีคงจะไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้า ประเทศอีกแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นคงจะไม่ยกเลิกวีซ่าเก่า รวมทั้งยังได้รีบชี้แจงมายังไทย อย่างไรก็ดีเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณคงจะไม่ได้เปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทางของ ประเทศอื่น เพราะไม่เช่นนั้นทางการเยอรมนีคงไม่สามารถตรวจสอบพบได้ว่ามีการเดินทางเข้า ไปโดยใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่น

ยัน ยังใช้ชื่อเดิม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ เหตุเดินทางไปไหนก็มีคนรู้จัก จำหน้าได้ เผยทักษิณยังหลบอยู่ที่เมืองดูไบ ด้านก.ต่างประเทศแฉยันทักษิณถูกยกเลิกวีซ่าเชงเก้นจริง เชื่อเยอรมนีคงจะไม่ให้ทักษิณเดินทางเข้าประเทศอีกแล้ว...

นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (8มิ.ย.) ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุพ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อปลอมในการเดินทางไปต่างประเทศว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อเดิมทุกครั้ง ไม่เคยเปลี่ยนชื่อในการเดินทาง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปไหนก็มีคนรู้จัก จำหน้าได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ ทั้งนายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องมาสอบเรื่องนี้

“การที่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางไปที่ใดก็ได้โดยสะดวก ไม่ติดขัด เนื่องจากต่างประเทศเข้าใจและเห็นใจพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกเล่นงานจากเกมการ เมืองในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี และนายกษิตควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปราสาทเขาพระวิหารดีกว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังอยู่ที่เมืองดูไบ ส่วนกรณีที่ประเทศเยอรมนีถอนวีซ่าเดินทางเข้าประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น เนื่องจากวีซ่าเข้าเยอรมนีของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประทับตราในพาสปอร์ตของไทย แต่เมื่อทางการไทยยกเลิกพาสปอร์ตเล่มดังกล่าว ส่งผลให้วีซ่าเข้าเยอรมนีต้องยกเลิกไปโดยปริยาย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ”นายนพดล กล่าว

ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และโฆษกฝ่ายการเมืองของกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ระบุว่าวีซ่าเข้าเยอรมนีของพ.ต.ท.ทักษิณถูกยกเลิกไปโดยปริยาย เมื่อทางการไทยยกเลิกพาสปอร์ตของไทยที่ออกให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนได้ตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยแล้ว และได้รับแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางเข้าประเทศเยอรมนีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 โดยใช้พาสปอร์ตนิคารากัวและใช้วีซ่าเชงเก้น เดินทางผ่านจากประเทศฝรั่งเศสเข้าไปอยู่ที่เยอรมนีเป็นเวลา 2 วัน ทั้งนี้หากเป็นการเดินทางโดยทางรถยนต์ จะไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นทางเยอรมนีจะไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามาได้อย่างไร ผ่านทางไหน โดยทางเยอรมนีเพิ่งตรวจพบเมื่อเดือนเมษายนปี 2552 ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามา หลังจากได้ยินข่าวดังกล่าวแล้วจึงได้ยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณ

“ การที่นายนพดลระบุว่าทางการเยอรมันไม่ได้ยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถูกยกเลิกไปเพราะทางการไทยยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ทางเยอรมันยังยืนยันว่าได้ให้ความสัมพันธ์สูงสุดกับความสัมพันธ์ ของสองประเทศ เห็นได้จากการที่มีการยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณที่พบเป็นข่าว ก่อนที่จะแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ”นายชวนนท์ กล่าว

ผู้ สื่อข่าวถามว่าทางการเยอรมนีได้ยืนยันกับฝ่ายไทยหรือไม่ว่า หลังจากนี้จะไม่มีการออกวีซ่าเชงเก้นให้กับพ.ต.ท.ทักษิณอีกต่อไป นายชวนนท์ กล่าวว่า เขาไม่ได้พูดแบบนั้น แต่เชื่อว่าน่าจะตีความได้ว่าทางเยอรมนีคงจะไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้า ประเทศอีกแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นคงจะไม่ยกเลิกวีซ่าเก่า รวมทั้งยังได้รีบชี้แจงมายังไทย อย่างไรก็ดีเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณคงจะไม่ได้เปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทางของ ประเทศอื่น เพราะไม่เช่นนั้นทางการเยอรมนีคงไม่สามารถตรวจสอบพบได้ว่ามีการเดินทางเข้า ไปโดยใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่น