หน.เพื่อไทยกำชับส.ส. โหวตแนวทางเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ธ.ค.) แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พร้อมกับสมาชิกพรรค ได้เปิดแถลงข่าวผลการประชุมของคณะกรรมการประสานงานเพื่อการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ ส.ส.ทั้ง 2 ประเภท ของอดีตพรรคพลังประชาชน มีเอกสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้สมาชิกพิจารณาไปในแนวทางเดียวกัน และมุ่งเน้นประโยชน์ของประชาธิปไตย และทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ พรรคจะไม่เสนอชื่อบุคคลที่มาจากพรรคพลังประชาชนเดิม เป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคได้เสนอให้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรคให้ความนับถือเป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นโยบายของพรรคในการเสนอชื่อบุคคลจะต้องมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมโดยเป็นบุคคลที่พรรคเห็นว่าจะนำพาบ้านเมืองเดินต่อไปได้ โดยไม่มีความขัดแย้ง ส่วนจะเป็นบุคคลใด พรรคจะมีการประสานงาน และยืนยันกับนายเสนาะ ในช่วงค่ำของวันนี้ และยังยืนยันว่า มีเสียง ส.ส.มากพอที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายวิทยา เตรียมเดินทางเข้าพบ นายเสนาะ ที่บ้านพักย่านเมืองทองธานี ในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อสอบถามถึงความชัดเจนในการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นยังคงเป็น พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ได้วิเคราะห์ในฐานะคนอยู่ในวงการการเมือง ซึ่งเสียง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้มีประมาณ 438 เสียง และเสียงของพรรคเพื่อไทยมีประมาณ 230 เสียง จึงมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าคะแนนเสียงคงไม่ต่างกันมากนัก หากจะมีการแพ้ชนะกันคงอยู่ที่ประมาณ 8-10 เสียง ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่เปิดกว้าง และพร้อมสนับสนุนพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล และอยากเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ยุติการให้ร้ายพรรคเพื่อไทยว่ามีการซื้อตัว ส.ส.กลับคืนไป

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ไม่ว่าผลการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร คงต้องยอมรับในความเป็นจริง ส่วนคืนก่อนวันเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่มีอะไรต้องจับตาเป็นพิเศษ เพราะไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากขณะนี้เสียงค่อนข้างนิ่งแล้ว

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวอีกว่า ขอให้นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน เอาเงิน 30 ล้านบาทที่ตนเคยให้ไว้มาคืนตนด้วย โดยเป็นการให้เมื่อครั้งที่นัดพบกันที่บ้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2539 นอกจากนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็เคยอ้างกับตนว่าได้ให้เงินนายเนวิน ไปจำนวน 100 ล้านบาท แต่ตรงนี้ตนไม่ทราบรายละเอียดของข้อเท็จจริง

0 ความคิดเห็น: