อุตฯไฟฟ้าประกาศลดกำลังผลิต ผู้บริหารโตชิบาขอลดเงินเดือน20%

ผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้า ดิ้นรับมือวิกฤติเศรษฐกิจ ระบุออเดอร์ส่งออกหดตัวต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้หดถึง 50% ประกาศลดกำลังการผลิตสินค้าเกือบทุกรายการ ผู้บริหารระดับสูงโตชิบาโชว์สปิริต งดรับโบนัส-ขอลดเงินเดือนลง 20%

ดร. ขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มส่อเค้าและชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปี 2551 โดยเฉพาะสถานการณ์การส่งออก ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมาในช่วงเริ่มต้น ทางกลุ่มวางเป้าหมายว่าจะต้องมีการขยายตัวที่ 10%

แต่เมื่อสิ้นสุดถึงเดือนตุลาคมภาพรวมยังโตที่ 8% และเมื่อจบ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 2551) การเติบโตลดลงเหลือ 5% และคาดว่าจบทั้งปี 2551 จะมีการขยายตัวแค่ 2-3% เท่านั้น

ทั้งนี้ ประธานกลุ่มให้เหตุผลว่า สถานการณ์ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มส่อเค้าการชะลอตัวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนที่ยอดการส่งออกลดลง 20% และเดือนธันวาคมที่ผ่านมาลดลงถึง 50% ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ภาพรวมในอุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องมีการปรับลดพนักงานบาง ส่วน โดยเริ่มมาตั้งแต่การลดเอาท์ซอร์ส การไม่บรรจุพนักงาน มาถึงการปรับลดโอที และล่าสุดคือการลดเวลาการทำงานลงแล้ว โดยในหนึ่งสัปดาห์มีการลดวันทำงานลง 1-2 วัน

"ทุกอย่างเป็นสเต็ปหรือเป็นขั้นตอนมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา ตอนนี้หลายแห่งให้พนักงานลดวันทำงานลง เพื่อพยุงบริษัทซึ่งดีกว่าการให้ออก สำหรับตัวเลขของบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้ที่หายไป ผมยังไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าหายไปหลายหมื่นคน จากตัวเลขทั้งหมด 5.8 แสนคน ส่วนภาพรวมของปีนี้คาดว่าจะเป็นปีที่ตัวเลขการส่งออกหดตัวถึง 50%"

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมตลาดทั้งในประเทศและการส่งออกชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้ประกอบการแต่ละค่ายพยายามปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อพยุงบริษัทให้อยู่รอด สำหรับโตชิบาล่าสุดผู้บริหารระดับสูงทั้งโตชิบา ไทยแลนด์ และบริษัทในเครือบางแห่งได้แสดงสปิริตด้วยการขอปรับลดเงินเดือนลง 20%

การปรับลดเงินเดือนของผู้บริหารโตชิบาไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยในครั้งนั้นผู้บริหารได้แสดงความสมัครใจด้วยการขอลดเงินเดือนลง 30% และไม่เพียงแค่ในระดับสูงเท่านั้น แต่ในระดับรองลงมาระดับผู้จัดการก็ได้แสดงความสมัครใจขอลดเงินเดือนเช่น เดียวกัน สำหรับวิกฤติในครั้งนี้ผู้บริหารโตชิบายืนยันว่าเป็นความสมัครใจของแต่ละ บุคคลเช่นเดียวกัน เนื่องจากนโยบายของบริษัทไม่มีการปลดพนักงาน

"ที่ผ่านมาเริ่มต้นที่พนักงานสมัครใจด้วยการขอไม่ต้องจัดงานปีใหม่ รวมถึงผู้บริหารบางคนยกเลิกพนักงานขับรถ หันมาขับเอง ขณะที่โรงงานบางแห่งในเครือโตชิบาเราได้ลดกำลังผลิตบางตัวลงแล้ว ลดเวลาการทำงาน แต่ก็สินค้าบางรายการยังมีการผลิตที่ดีอยู่ เช่น ตู้เย็น สำหรับการส่งออกขณะนี้โตชิบายังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเรามีออเดอร์ตายตัวถึงไตรมาสแรก แต่ออเดอร์ของเดือนเม.ย.ยังไม่มา ซึ่งเราต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันสินค้าที่เคยต้องผลิตเพื่อตุนไว้รับในช่วงซีซันนั้นก็จะไม่มีการ ผลิตตุนไว้เหมือนในอดีต"

ผู้บริหารยืนยันว่า แม้จะมีการลดเงินเดือนและปรับลดกำลังผลิต แต่สิ่งที่โตชิบายังต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อพยุงยอดขายให้ได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่ให้ทรุดลงจากปีที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งมาจากที่ต้องช่วยเหลือดีลเลอร์ด้วย เพราะในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัวแบบนี้ ดีลเลอร์จะได้รับผลกระทบหนัก หากบริษัทแม่ไม่ให้การช่วยเหลือก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ในบางราย

นอกจากนี้สิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ก็คือ การให้พนักงานส่วนอื่นๆ มาร่วมกันช่วยขายสินค้า โดยบริษัทได้มีการจัดเทรนนิ่งในส่วนของการเป็นนักขายให้กับพนักงานที่มีความ สนใจ และหากขายได้บริษัทก็ให้อินเซนทีฟเป็นค่าตอบแทน เพื่อช่วยเหลือพนักงานส่วนหนึ่ง

แหล่งข่าวจากบริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่าในไลน์การผลิตสินค้าบางตัวมีออเดอร์จากต่างประเทศลดลง โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ ที่การผลิตลดลงต่อเนื่อง แต่สินค้าที่ยังขยายตัวคือ เครื่องปรับอากาศ

สำหรับนโยบายของแอลจีนั้นยังไม่มีการปรับลดพนักงาน เนื่องจากบริษัทจะมองถึงอนาคตด้วย จำเป็นต้องรักษาบุคลากรที่ดีไว้ อย่างไรก็ตามทางโรงงานได้มีการประกาศให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ หากปีนี้ใครไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จะมีการปรับลดตำแหน่งลงมา

“ทุกวันนี้แอลจีมีการผลิตตามออเดอร์ แต่ยอมรับว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาออเดอร์ลดลง โดยเฉพาะไมโครเวฟที่ตลาดตกลงมาก ส่วนหนึ่งผู้บริโภคมองว่าไม่ใช่เป็นสินค้าจำเป็น ประกอบกับที่ผ่านมาสินค้าตัวนี้ถูกนำไปจัดแคมเปญ ด้วยการเป็นของแถมกับรายการอื่นจำนวนมาก จึงทำให้การซื้อลดลง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาชิ้นส่วนบางตัวนำเข้ามาช้าซึ่งเกิดจากการปิดสนามบิน สุวรรณภูมิ ทำให้เราผลิตสินค้าไม่ได้ ลูกค้าจึงยกเลิกการสั่งซื้อบางส่วน”

แหล่ง ข่าวจากบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวยอมรับว่าขณะนี้บริษัทได้มีการปรับลดไลน์การผลิตลงเกือบทุกรายการ เฉลี่ยอยู่ที่ 20% โดย ไมโครเวฟ ลดลงมากกว่า 20% จากปกติที่มีการผลิต 2 แสนยูนิตต่อเดือน “ยังไม่มีสินค้าตัวไหนที่ต้องถึงขั้นปิดไลน์การผลิต เพราะยังมีบางตัวที่เรามีออเดอร์เพิ่ม เช่น แอลซีดี ทีวี สินค้ากลุ่มนี้ยังมีโอที เพราะตลาดตะวันออกกลางยังมีความต้องการสูง สำหรับออเดอร์ส่งออกเราต้องประเมินสถานการณ์ในไตรมาสสองกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทแม่ได้ส่งสัญญาณให้ทางเมืองไทยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เช่น การลดค่าใช้จ่ายลงให้มากที่สุด”

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ 29 มกราคม 2552 เวลา 22:30  

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล