ลุยค้นเขาโจรป่วนใต้ เจอระเบิดเพียบ

รัฐบาล “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศเดินหน้าลุยแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เต็มสูบ อนุมัติตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีดับไฟใต้เป็นกรณีพิเศษ โดยนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ม.ค.ว่า ครม.อนุมัติตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบด้วย จ.นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา และสตูล จำนวน 18 คน มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน คณะกรรมการชุดนี้มีรัฐมนตรีเป็นกรรมการทั้งหมด 16 คน ส่วนอีก 2 คนเป็นข้าราชการ มีหน้าที่ดูแลเรื่องนโยบายการพัฒนาและอนุมัติงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ พิเศษภาคใต้ในทุกเรื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การลงทุน และคมนาคม “ในวันที่ 17 ม.ค. นายกฯจะลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังปัญหาภายในพื้นที่ ยืนยันการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ จะไม่ซ้ำซ้อนกับ ศอ.บต. เพราะ ศอ.บต.จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายปฏิบัติ” นายถาวรสรุป

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบการขยายต่ออายุ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 3 เดือน ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอมา เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.-19 เม.ย. 2552 เนื่องจากการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ดังกล่าว ช่วยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายผลจับกุมผู้กระทำผิด อีกทั้งผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีแผน ก่อความไม่สงบในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องขอขยายเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉบับนี้ออกไป อย่างไรก็ตาม นายกฯ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งต่อไป ให้ประมวลเหตุการณ์ว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ช่วยการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพด้านใดบ้าง และอยากทราบความคืบหน้าคดีด้านความมั่นคงในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร พร้อมให้ทำสถิติด้านการใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการสืบหาผู้กระทำผิดในพื้นที่ เกิดประโยชน์ในการทำงานเพียงใด และประชาชนมีความพอใจ พ.ร.ก.นี้หรือไม่

ต่อมาเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดเผยว่า รองนายกฯได้แจ้งให้ทราบถึงการตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้สั่งการให้เตรียมการบรรยาย สรุปให้นายกรัฐมนตรีในการเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ เพื่อให้รัฐบาลได้เห็นแนวทางการทำงานที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรับไปตามกรอบใหม่ของรัฐบาล สำหรับความปลอดภัยในตัวนายกรัฐมนตรีและ ครม.นั้น ขอยืนยันว่าปลอดภัยแน่นอน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวต่ออีกว่า สำหรับความร่วมมือของมวลชนกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็เป็นไปอย่างดีมาก แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ยังจำเป็นอยู่ แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะแจ้งให้รัฐบาลทราบอีกทีหนึ่ง เพื่อจะได้ไม่ต้องต่อการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก

ที่สนามบินกองทัพอากาศดอนเมือง เช้าวันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวขณะเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินเดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากการประเมินสถานการณ์ สถานการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 การก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาพรวมทุกอย่างลดน้อยลง ทั้งในเรื่องของจำนวนเหตุการณ์ ผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนโยบายในช่วงปี 2552 จะยึดถือแนวยุทธศาสตร์เดิม และการตั้ง ศปก.จชต. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯลงพระปรมาภิไธยเรียบร้อยแล้ว รอเสนอจัดตั้งหน่วยงาน ซึ่งจะเป็นรูปแบบของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่ บช.ภ.10 ซึ่งสามารถยุบศูนย์ลงได้หากเหตุการณ์ความไม่สงบลดลง ก็ถือว่าศูนย์ดังกล่าวหมดความจำเป็น

ส่วนเรื่องที่รัฐบาลอนุมัติจัดตั้ง ครม.พิเศษแก้ปัญหาภาคใต้ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า เป็นเรื่องฝ่ายการเมือง แต่ข้าราชการประจำ ทั้ง กอ.รมน.และ ศปก.ตร.สน.ยะลาเองต้องทำหน้าที่ปกติ สำหรับตำรวจมีหน้าที่หลักในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งต้องใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ให้ครบถ้วน และลดเงื่อนไขต่างๆสำหรับคนในพื้นที่ ซึ่งผลการทำงานที่ผ่านมาในภาพรวมถือว่าสถานการณ์ลดลง และมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้มากขึ้น และภายหลังจากเข้าประชุมสรุปสถานการณ์ที่ ศปก.ตร.สน.ยะลา จาก พล.ต.ท. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผบช.ศปก.ตร.สน.ยะลาแล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. นางสมถวิล วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจพร้อมคณะฯได้เดินทางเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจาก เหตุการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ที่ รพ.ศูนย์ยะลา และ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ขณะเดียวกันก็ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ม.ค. พ.ต.ท.อาคม บัวทอง สวญ.สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นำกำลังรุดไปตรวจสอบเหตุนายอับดุลเลาะ บือแน อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.กอลำ อ.ยะรัง ถูกคนร้ายประกบยิงขณะขี่รถ จยย.มาตามถนนสายชนบทหมู่เดียวกันกระเด็นตกจากรถ จยย.เสียชีวิตคาที่ คาดเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์รายวัน

อีกเหตุการณ์เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 13 ม.ค. พ.ต.ท. สนิท สุดทองคง สารวัตรเวร สภ.ทุ่งลง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รุดไปตรวจสอบเหตุรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บจ 5053 นราธิวาส เสียหลักพุ่งตกลงไปในร่องกลางถนนเพชรเกษม (นาหม่อม-หาดใหญ่) ตรงข้ามบริษัทโชติวัฒน์อุตสาหกรรมจำกัด อ.หาดใหญ่ ตัวรถพุ่งอัดกระแทกต้นไม้พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า ผู้บาดเจ็บ จำนวน 6 นาย เป็นทหารนาวิกโยธินค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส ถูกลำเลียงส่ง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.)หาดใหญ่ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต 2 นาย คือ จ.อ.ศิรวิทย์ อินแนน อายุ 26 ปี และ จ.อ.สนั่น เทพเดช อายุ 27 ปี สอบสวนทราบว่าทหารนาวิกโยธินทั้ง 6 นาย อยู่ระหว่างเดินทางมาคุ้มกันและนำคณะของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมไปบรรยายให้กับกลุ่มทหารรบพิเศษที่ จ.นราธิวาส แต่มาประสบอุบัติเหตุเพราะถูกรถเก๋งไม่ทราบทะเบียนขับปาดหน้า จนทำให้รถเสียหลักพุ่งตกร่องกลางถนนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ถัดมาเวลา 15.30 น. ที่ สภ.เบตง จ.ยะลา พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง พ.ท.ธงชัย มีอนันต์ ผบ.ฉก. ยะลา 16 พ.ต.อ.สมบัติ หวังดี ผกก.สภ.เบตง พ.ต.อ.เฉลิมเกียรติ อมรากระสินธุ์ ผกก.สภ.ธารโต พร้อมกำลังแถลงผลการตรวจค้นบริเวณเทือกเขาหมู่ 9 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง พบถังอะลูมิเนียมขนาด 30 ลิตร บรรจุระเบิดแสวงเครื่องและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตระเบิดเป็นดินระเบิด จำนวน 389 แท่ง คาดเป็นของกลุ่มก่อความไม่สงบนำมาขุดหลุมซุกซ่อนเอาไว้

ส่วนเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดรถฮัมวี ชุดร้อย 2 พัน 2 ฉก.นราธิวาส บนถนนสายเลี่ยงเมือง (นราธิวาส-เจาะไอร้อง) หมู่ 2 บ้านยานิง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทหารบนรถบาดเจ็บรวม 6 นายนั้น ต่อมาเวลา 06.00 น. วันที่ 13 ม.ค. พลทหารอุทัย ฐิตะสาร อายุ 22 ปี ได้เสียชีวิตลงที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จากนั้นในเวลา 10.15 น. พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และนายธนน เวชกรกานนท์ รอง ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพพลทหารอุทัย ฐิตะสาร ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดบางนรา อ.เมืองนราธิวาส โดยมีข้าราชการพ่อค้าประชาชนมาร่วมไว้อาลัยจนแน่นขนัด โดยศูนย์เยียวยาจังหวัดนราธิวาสได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของพลทหาร อุทัย จำนวน 500,000 บาท ขณะที่ต้นสังกัดได้เสนอปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศเป็นร้อยตรี จากนั้นเวลา 14.00 น. ได้เคลื่อนศพขึ้นเครื่องบินซี-130 กองทัพอากาศส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน ต.ดอนใหญ่ อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ 21 มกราคม 2552 เวลา 22:33  

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคับ