ถ้าไม่ปล่อยแกนนำ ทักษิณขู่ จะเกิดจลาจลขึ้นอีก

หลัง จากเหตุการณ์ทหารสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และ 3 แกนนำกลุ่ม นปช.ยอมยุติการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วเข้ามอบตัวกับทาง ผบช.น. และมีการคุมตัวแกนนำทั้ง 3 คน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปควบคุมแยกกันคนละแห่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ ถูกนำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกนำตัวไปควบคุมที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ค่ายนเรศวร) บช.ตชด. อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ นพ.เหวง โตจิราการ ถูกนำตัวไปควบคุมใน กก.ตชด.ที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

ตั้ง ธานี-วรพงษ์คุมคดีเสื้อแดง

ความ คืบหน้าในการดำเนินคดีกับแกนนำทั้ง 3 เมื่อวันที่ 15 เม.ย. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ที่มีหมายจับไว้แล้ว และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบการสอบสวนดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม โดยทาง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. จะจัดเตรียมทีมพนักงานสอบสวนดำเนินการในเรื่องนี้ โดยให้มีการสำรวจความเสียหายในช่วงการชุมนุม เพื่อสอบสวนหาคนที่กระทำผิด รวมทั้งจัดตำรวจดูแลสถานที่ราชการ ร้านค้า ร้านทอง ห้างสรรพสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์

ธานีสั่งเร่งจับแกนนำม็อบ

จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้ เรียกประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของกลุ่มมวลชนคน เสื้อแดง ประกอบด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.เจตต์ มงคลหัตถี ผบช.กมส. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี จตร. ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธานี มีคำสั่งให้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่นครบาลทำการรวบรวมคดีชุมนุมของกลุ่มคน เสื้อแดง เพื่อทำการสอบสวนหาตัวผู้ที่ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และกำชับให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมแกนนำ นปช.ที่เหลือให้ได้ทั้งหมดโดยเร็ว

ผบช.น.สั่งจับตาม็อบสนามหลวง

ส่วน ที่ บช.น. เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวถึงความเคลื่อนไหวผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงว่า ขณะนี้ที่ท้องสนามหลวงมีแต่การจับกลุ่มพูดคุยกัน โดยไม่ได้สวมใส่เสื้อสีแดง ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสังเกตการณ์แล้ว หากมีการปราศรัยโจมตีกันก็สามารถจับกุมได้เลย ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกออกหมายจับขณะนี้น่าจะยังอยู่ในประเทศ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหนีไปกบดานที่ฮ่องกง เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่

ตู่ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ไม่มอบตัว

ต่อ มาเวลา 13.30 น.นายองอาจ คำทอง ทนายความรับมอบอำนาจจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บช.น. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นนายองอาจเปิดเผยว่า นายจตุพรยังไม่ขอเข้ามอบตัว โดยใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดสมัยการประชุมสภา หลังจากปิดสมัยประชุมแล้ว จึงจะเข้ามอบตัวต่อเพื่อต่อสู้คดีต่อไป และขณะนี้นายจตุพรยังอยู่ในประเทศไทยไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ และบอกว่าสบายดี ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น ทั้งนี้ นายจตุพรถูกศาลอาญาออกหมายจับตามความผิดตามมาตรา 215 ระบุว่าผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดคนใดมีอาวุธ ผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เป๋ คลองเตยหนีตั้งหลักทางเหนือ

ส่วน นายณรงศักดิ์ มณี หรือเป๋ คลองเตย หนึ่งในผู้ต้องหา 13 คน ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ที่ยังไม่ได้มอบตัว เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนปลอดภัยดี พักอยู่ในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งทางภาคเหนือ กำลังอยู่ระหว่างติดต่อหาทนายความและรวบรวมหลักทรัพย์สำหรับการยื่นขอประกัน ตัว คาดว่าเมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็จะติดต่อขอมอบตัวกับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.อีกครั้ง

ฝากขัง 3 มือก่อวินาศกรรม

ด้าน การดำเนินคดีมือวินาศกรรมนั้น ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติพันธ์ จุนทการ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายพรชัย หรืออ๊อด อักษรวิทย์ อายุ 52 ปี พ.จ.อ.สุริยา หรืออุ้ย โพธิ์เงิน อายุ 54 ปี และนายสกันต์ หรือหยวก แสงเฟื่อง อายุ 55 ปี กล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืน เข้าไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร โดยแนวทางสืบสวนทราบว่าทั้ง 3 เตรียมที่จะก่อวินาศกรรมวางเพลิงเผาธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ และตึกซีพี ถนนสีลม ว่า หลังจากรับตัว 3 ผู้ต้องหามาแล้วได้ให้ พ.ต.ท.ณรงค์ ยิ้มปั่น พงส. (สบ 2) สน.ทุ่งมหาเมฆ สอบสวน โดย 1 ในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ไม่ยอมบอกว่าได้รับการว่าจ้างจากผู้ใด ส่วนอีก 2 คนยังปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาลและขอพบทนายความ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทั้ง 3 คนแยกขังไว้ที่ สน.ลุมพินี สน.วัดพระยาไกร และที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยไม่มีการให้ประกันตัว และในวันที่ 16 เม.ย.นี้ จะนำตัวทั้ง 3 คนไปฝากขังที่ศาลอาญาใต้ หากผู้ต้องหาประสงค์ที่จะประกันตัวคงต้องยื่นขอประกันที่ศาลอาญาใต้ในวันที่ 16 เม.ย.นี้

ทอ.ปัดลูกน้องร่วมทีมป่วน

กระนั้น วันเดียวกัน นาวาเอกมณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ ได้ส่งโทรสารแจ้งว่า ตามที่มีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนบางแห่งว่า มีข้าราชการทหารอากาศเข้าไปมีส่วนร่วมในการเตรียมการก่อวินาศกรรมอาคารซีพี และธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2552 ซึ่งระบุว่าชื่อ พันจ่าอากาศเอกสุริยา โพธิ์เงิน นั้น ขอแจ้งว่าจากการตรวจสอบข้อมูลสถานภาพกำลังพลของกองทัพอากาศแล้ว ไม่ปรากฏมีชื่อดังกล่าวอยู่ในทำเนียบกำลังของกองทัพอากาศในปัจจุบันแต่ ประการใด อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่า มีข้าราชการของกองทัพอากาศคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อความไม่สงบใน ทุกกรณี กองทัพอากาศพร้อมที่จะดำเนินการและให้ความร่วมมือกับฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้าน เมืองต่อไป

8 แกนนำยังหลบหนี

ต่อ มาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ออกหมายจับแล้ว 13 คน มามอบตัวแล้ว 3 คน สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงเรียกไม่ได้เพราะอยู่ต่างประเทศ ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. ยังไม่เข้ามอบตัว ดังนั้น คงเหลือผู้ต้องหาอีก 8 คน คงไม่ต้องออกหมายเรียกแล้ว เพราะมีหมายจับ พบเห็นที่ไหนรวบตัวได้เลย นอกเหนือจากนี้ จะมีรายอื่นอีกหรือไม่ต้องตรวจสอบหลักฐานจากเทปบันทึก ใครพูดอะไรต้องรับผิดชอบ รวมถึงผู้ขึ้นปราศรัย หลังจากที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายต้องมีความผิด ในส่วนของแกนนำทั้ง 3 คน ที่เข้ามอบตัวแล้ว แต่พนักงานสอบสวนยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ ต้องไปฝากขังศาลอาญา ซึ่งสามารถยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้ ส่วนกลุ่มเสื้อแดงถ้าไปวุ่นวายที่ศาล ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลก็จะถูกดำเนินคดีทันที สำหรับคดีพันธมิตรฯ ยึดสนามบินดอนเมือง พนักงานสอบสวนของ บช.น. ดำเนินการเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการรวมคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมี บช.ภ.1 เป็นผู้ดำเนินการ

วีระเครียดถูกแยกขัง

สำหรับ ความเป็นอยู่ของแกนนำ นปช.ทั้ง 3 คน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 15 เม.ย.จนถึงช่วงบ่าย ที่หน้าทางเข้า บก.ตชด.ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์พบว่ามีการเสริมกำลัง ตชด. จำนวน 1 กองร้อย เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะที่จะเข้าออกอย่างเข้มงวด ไม่ อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชนและประชาชนเข้าไปภายในอย่างเด็ดขาด และไม่พบว่ามีกลุ่ม นปช.มาขอเยี่ยมนายวีระแต่อย่างใด มีเพียงญาติและทนายความส่วนตัวที่เข้าไปพูดคุยด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่จัดให้นายวีระพักอยู่ในห้องรับรอง อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ระบุว่า นายวีระค่อนข้างเครียดที่ถูกควบคุมตัวแยกจากกลุ่มแกนนำแต่ยังมีสภาพจิตใจที่ ดี และมั่นใจว่าจะได้รับการประกันตัวโดยเร็ว

มือมืดโทร.ขู่ให้ปล่อยแกนนำ

ส่วน ที่ กก.ตชด.13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัว นพ.เหวง โตจิราการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเสริมกำลัง ตชด. เพื่อรักษาความปลอดภัยเพิ่มอีก 1 หมวด มีการนำแผงเหล็กมากั้นบีบช่องจราจรทางเข้าให้เหลือเพียงช่องเดียว การเข้าออกต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่อนุญาตให้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องหรือสื่อมวลชนเข้าอย่างเด็ดขาด พร้อมกันนี้ ยังมีกำลังตำรวจจาก สภ.พนมทวน อีก 10 นาย มาตั้งด่านตรวจบริเวณทางเข้าอีกจุดหนึ่งด้วย จากการสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของ นพ.เหวง พบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่ในเรือนรับรองพร้อมผู้ติดตามอีก 1 คน โดยเมื่อช่วงเช้ามีคนในครอบครัว รวมทั้งทนายความเข้าเยี่ยมแล้ว ขณะเดียวกัน มีโทรศัพท์จากชายลึกลับอ้างเป็นแกนนำกลุ่ม นปช.ใน จ.กาญจนบุรี โทร.เข้าไปข่มขู่ว่า หากถึงเวลา 14.00 น. วันที่ 15 เม.ย. นพ.เหวงยังไม่ได้ ประกันตัว กลุ่ม นปช.จะยกขบวนมาชุมนุมประท้วงที่หน้า กก.ตชด.13 แต่เมื่อถึงเวลาดังกล่าวก็ไม่มีกลุ่ม นปช.ยกขบวนมาประท้วงแต่อย่างใด

จี้ รบ.ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แต่ ในเวลาเดียวกัน นพ.เหวง โตจิราการ ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่าขณะนี้ทั้งตน นายวีระ มุสิกพงศ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างสบายดี ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะในส่วนของตน ทาง พ.ต.อ.มนต์ชัย เรืองจรัส ผกก.ตชด.ที่ 13 อนุญาตให้มีผู้ติดตามดูแลได้ 2 คน คาดว่าคงจะได้รับอนุญาตให้ประกันตัวได้ในเร็วๆนี้ จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชน คนเสื้อแดงไม่ต้องเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉินอย่างร้ายแรงทันที เนื่องจากคนเสื้อแดงได้สลายการชุมนุมแล้ว และพวกตนก็ถูกจับกุมอยู่ในขณะนี้ แต่หากยังไม่ยอมยกเลิก พ.ร.ก. ถ้าเกิดความเสียหายกับประเทศตามมา นายอภิสิทธิ์จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ไม่ใช่พวกตนอีกแล้ว

ณัฐวุฒิสภาพจิตใจยังดี

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในบก.สนับสนุนทางอากาศ ค่ายนเรศวร บช.ตชด. จ.เพชรบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องตลอดจนสื่อมวลชนเข้าไปอย่างเด็ดขาดเช่น กัน ทั้งนี้ พล.ต.ต.เทพ อมรโสภิต ผบก.สนับสนุนทางอากาศฯ ระบุว่า นายณัฐวุฒิยังมีสภาพจิตใจที่ดี ทางเราได้จัดให้อยู่ในห้องรับรอง มีการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เต็มที่ และยังไม่มีใครติดต่อขอเข้าเยี่ยม ซึ่งจะพิจารณาให้เข้าเยี่ยมได้เฉพาะญาติและทนายความเท่านั้น

แม้วขู่ รบ.ให้ปล่อยแกนนำ

นอก จากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยุติลงไปแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตกเป็นหนึ่งใน 13 ผู้ต้องหาปลุกปั่นม็อบเสื้อแดง ยังให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศอย่างน้อย 2 แห่ง คือหนังสือพิมพ์เทเลกราฟของประเทศอังกฤษ และสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา ในดูไบ ถึงเหตุการณ์ ทหารเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยนักข่าวหนังสือพิมพ์เทเลกราฟของประเทศอังกฤษ ระบุได้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ในล็อบบี้ในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งในนครรัฐดูไบ ว่าขอเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกจับกุม หรือเข้ามอบตัวทั้งหมด มิฉะนั้น จะเกิดความรุนแรงตามมามากกว่านี้ รัฐบาลไทยควรหาทางสมานฉันท์กับกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่ แค่จับและขังคุก เมื่อใช้ความรุนแรงไปก็จะเกิดความรุนแรงตามมา ถ้าคุมขังแกนนำกลุ่มเสื้อแดง จะเกิดความรุนแรงมากกว่านี้ หากคิดว่าจะใช้อำนาจบดขยี้ประชาชน อย่าหวังว่าพวกเขาจะเงียบ

ปัดปลุกปั่นยุยงแค่ส่งกำลังใจ

อดีต นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ไม่ได้สั่งการให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเข้ามอบตัว เพียงแต่เตือนให้ระวังตัวและห่วงใยชีวิตของกลุ่มผู้ประท้วง หลังเกิดเหตุปะทะ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าถึงการประท้วงยุติลง ก็ไม่ได้เป็นความพ่ายแพ้ของตนเอง และขอยืนยันว่าไม่ได้ต่อสู้ ปลุกปั่นยุยง หรือบงการผู้ประท้วง แค่ให้การสนับสนุนด้านขวัญกำลังใจเท่านั้น เพราะหากตนต่อสู้จริงๆ ก็จะไม่ใช้วิธีการต่อสู้เช่นนี้ ตนจะมีกลยุทธ์มากกว่านี้ ก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า จนถึงทุกวันนี้ ตนยังไม่มียุทธศาสตร์ใดๆ อย่างไรก็ตาม เทเลกราฟระบุว่า ข้อกล่าว อ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณขัดแย้งกับพฤติกรรมของเขาใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งโฟนอินเข้ามายังกลุ่มผู้ชุมนุม เรียกร้องให้มีการปฏิวัติ

อ้างแกนนำบอกมีผู้ชุมนุมตาย

นอก จากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังยอมรับว่าติดต่อทางโทรศัพท์กับแกนนำการประท้วงตลอด และหนึ่งในแกนนำที่เป็นผู้หญิงถึงกับร่ำไห้บอกว่ามีผู้เสียชีวิตในการปะทะ กับทหาร ส่วนตำรวจก็บอกกับผู้ประท้วงว่ามีผู้ถูกยิงตายอย่างน้อย 5 ศพ และทหารนำศพไป เป็นความโหดร้ายมาก แต่ก็สบายใจขึ้นที่จะไม่มีการตายหรือบาดเจ็บเกิดขึ้นอีก ยอมรับว่าเสียใจมากต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

หากกลับต้องไม่ใช่เติมเชื้อไฟ

ขณะ ที่ในวันเดียวกันนั้นเอง พ.ต.ท.ทักษิณยังให้สัมภาษณ์พิเศษกับนายแดน โนแลน ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์อัล จาซีรา ในดูไบ จากที่เคยสัญญาว่าจะกลับประเทศทันทีหากรัฐบาลเคลื่อนไหวปราบปรามผู้ชุมนุม โดยอดีตนายกฯ ยังคงยืนยันว่ายังคิดถึงเรื่องนี้และได้พูดกับผู้สนับสนุนตน แต่ตอนนี้พวกเขากังวลต่อความปลอดภัยของตน ดังนั้น กำลังคิดอยู่ แต่ไม่ใช่วางแผน แต่ต้องแน่ใจว่าเมื่อกลับไปจะไม่ต่อเติมความรุนแรง แต่จะกลับไปเพื่อฟื้นฟูสันติ และกล่าวไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วยว่า เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน เคยพูดต่อรัฐสภาว่า ถ้ามีการประท้วง แม้มีเพียงคนเดียว หรือมีผู้เข้าร่วมแสนคน เขาก็จะรับฟัง และเราก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน หวังว่าเขาจะจำในสิ่งที่พูดต่อรัฐสภาได้

ดึงองค์กรนอกสอบยิงม็อบ

นอก จากนี้ สื่ออัล จาซีรา ได้ถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดยั่วยุให้ทหารออกมาทำรัฐประหารหรือไม่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวยืนยันว่าไม่เคยขอให้ทหารทำรัฐประหาร มีแต่บอกว่าถ้าทหารทำรัฐประหาร ประชาชนจะออกมาต่อสู้ และไม่ควรมีรัฐประหารอีก ส่วนเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับรถนายกฯนั้น ที่จริงแล้วสื่อมวลชนในไทยไม่ได้รายงานเรื่องราวที่แท้จริง และโฆษกทหารโกหกประชาชน ทหารออกมาพร้อมปืนเอ็ม 16 ยิงประชาชน มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและเอาศพไปซ่อน ซึ่งเรื่องนี้ อยากเชิญหน่วยงานอิสระนานาชาติเข้าไปช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งหมด อย่าไปเชื่อแต่แหล่งข่าวของรัฐบาล

ไม่มีความจริงก็ไม่มีสันติภาพ

เมื่อ ถูกถามอีกว่า ทิศทางจากนี้จะเป็นอย่างไร พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า อยากเห็นการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี หากปราศจากความจริง ก็ไม่มีสันติภาพ เราต้องการความจริง เราต้องการความยุติธรรม และไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับตน ไม่ต้องพูดถึง แต่ตนต้องการแค่เห็นสถานการณ์ยุติลงด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ต้องการเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริงในประเทศไทย ซึ่งจากนี้ไปก็จะจับตาดูสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด เพราะกังวลต่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม พวกเขาออกมาเพื่อร้องขอประชาธิปไตยที่แท้จริง พวกเขาไม่เคยร้องขอเลือด แต่ตอนนี้พวกเขากลับได้เลือดติดมือ

ทหารยังไม่ถอนกำลังกลับค่าย

ขณะ ที่วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เดินทางตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งมียอด ผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 34 คน โดยมีผู้ที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ 12 คน แบ่งเป็นทหาร 8 คน ประชาชน 4 คน โดย พล.ท. คณิตกล่าวว่า จากการดูอาการบาดเจ็บทุกคนมีอาการดีขึ้นมาก โดยทหารที่ออกมาปฏิบัติภารกิจขณะนี้ ยังไม่ กลับเข้ากรม กอง ยังทำงานร่วมกับตำรวจตามบริเวณแยกสำคัญต่างๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยให้ปลอดภัยมากที่สุด ส่วนทหารจะกลับเข้ากรม กอง เมื่อใดขึ้นอยู่ กับคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ส่วนการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลพิจารณา เพราะทหารเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ

คุมเข้มกลางคืนระวังเหตุร้าย

พ. อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ภายหลังมีการสลายการชุมนุม ทหารมีการปรับกำลังทหาร และพื้นที่ใหม่ เพื่อความเหมาะสมในการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยแบ่งเขตรับผิดชอบตามเขตการปกครองของกรุงเทพฯ 50 เขต และให้หน่วยทหารลงไป ซึ่งหน่วยทหารแต่ละหน่วยจะรับผิดชอบ 1 หน่วยต่อ 1 เขต จะใช้กำลังทหารไม่ถึง 1 กองพัน แต่คงไม่ต่ำกว่า 2 กองร้อย ขึ้นอยู่กับว่า เป็นเขตใหญ่หรือเล็ก ซึ่งกำลังทหารยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ลดจุดในแต่ละเขตลง เพื่อให้ทหารไปฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อให้ปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มข้นในช่วงกลาง คืน นอกจากนี้จะประสานงานกับตำรวจ และ กทม. เพื่อวางแผนว่า แต่ละเขตมีจุดใดที่เป็นจุดเพ่งเล็ง จุดใดควรตั้งจุดตรวจ จักรยานยนต์สายตรวจ จุดใดควรจัดตั้งกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว สำหรับการแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆ ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกเขต ทั้งนี้ความเข้มข้นจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะกลางคืนเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ประชาชน ส่วนช่วงกลางวันจะปรับกำลังให้น้อยลง

แจงต่างชาติทหารไม่ฆ่า ปชช.

พ. อ.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมที่ยังกระจายตัวชุมนุมตามจุดต่างๆ นั้น ขณะนี้เหลือเพียงผู้ชุมนุมที่ยังมีการรวมตัวที่บริเวณสนามหลวงประมาณ 400 คน ซึ่งไม่มีการตั้งเวที แต่เป็นการรวมกลุ่มเพื่อพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์เท่านั้น จุดนี้เป็นความพยายามเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงว่า ทหารยิงประชาชนเสียชีวิตในระหว่างการปฏิบัติภารกิจสลายการชุมนุมเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่ง กอฉ.พยายามทำความเข้าใจมาตลอดว่าไม่มีการใช้อาวุธกับผู้ชุมนุม จึงเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมายืนยันว่า ที่มีการอ้างว่ามีบุคคลที่ถูกทหารยิงตายคือนายไสว ทองอ้ม อายุ 41 ปีนั้น ยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.ราชวิถี ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า บาดแผลไม่ใช่จากกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ทหารใช้แน่นอน เพราะบาดแผลรูเข้าออกเล็ก หากเป็นกระสุนเอ็ม 16 จะทำให้แขนขาด และบาดแผลจะใหญ่กว่านี้ นอกจากนี้ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด ได้สั่งให้ทำ ความเข้าใจกับคนต่างชาติทั้งในและนอกประเทศไทย เพื่อยุติการพยายามปลุกระดมให้คนมาชุมนุมว่าทหารฆ่าคนตาย ซึ่งไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บทั้งทหาร ผู้ชุมนุมทุกคน ไม่ได้โดนยิงด้วยกระสุนเอ็ม 16 แต่เป็นกระสุนปืนลูกซอง 9 มม. หรือ .38 ซึ่งไม่มีใช้ในหน่วยกำลังรบของกองทัพบก และไม่ได้นำมาใช้ในภารกิจครั้งนี้

ซัดดีทีวีเป็นภัยความมั่นคง

เมื่อ ถามว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำภาพผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บจากการถูกสลายการชุมนุมไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในต่าง ประเทศ และมีการระบุว่าคนในภาพคือนายไสวที่เสียชีวิตแล้ว พ.อ. สรรเสริญตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าเสียชีวิตโดยทหารเป็นผู้ยิง ซึ่งความจริงยังไม่ได้เสียชีวิต กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงให้คนไทยในต่างประเทศและคนต่างชาติ ทราบว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ตรงกับความเป็นจริง ส่วนการประชุม กอฉ.ในวันที่ 15 เม.ย.นั้น สรุปว่า เหตุการณ์ ทุกพื้นที่มีความสงบ ซึ่ง ผบ.ทหารสูงสุดเน้นย้ำว่า แม้จะควบคุมการชุมนุมได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ขอให้เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่องว่าสิ่งที่ทหารทำไป ไม่มีใครได้รับการสูญเสียจากภารกิจ ส่วนการโฟนอิน หรือวีดิโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหน้าที่ของ กอฉ.โดยตรง ที่ต้องมีการตัดสัญญาณตามประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าการโฟนอินหรือการเผยแพร่ข่าวทางดีสเตชั่น เป็นข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ปลุกกระแสให้คนทำผิดกฎหมาย ยุยงให้ทำสิ่งที่รุนแรงเป็นภัยต่อความมั่นคง กอฉ.จึงประกาศให้ปิดการดำเนินการของส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ไทยคม 2 ที่ลาดหลุมแก้ว

สันติบาลคุมเข้มปลุกระดม

ด้าน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. ก็กล่าวถึงสถานการณ์ขณะนี้ว่า สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ต่างจังหวัดค่อนข้างนิ่ง แต่มีการขยับของมวลชนบ้างในพื้นที่ กทม. หน้าที่ของตำรวจสันติบาลต้องทำคือ จัดกำลังคุมพื้นที่จุดต่างๆ ทุกจังหวัด ติดตามวิทยุชุมชน การปลุกระดมมวลชนขึ้นมาเป็นพิษภัยต่อรัฐบาล การระวังข่าวลือที่ทำให้ไม่เข้าใจรัฐบาล จนลุกขึ้นมาทำอะไรให้กระทบความมั่นคง ตำรวจสันติบาลต้องเฝ้าระวังทุกเรื่อง พยายามคิดในเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ทั้งการก่อวินาศกรรม การวางเพลิงเผาสถานที่สำคัญ ที่เข้ามาของมวลชนต่างจังหวัด เพื่อจะได้เพิ่มความระมัดระวังให้ทุกด้าน ซึ่งขณะนี้มีแต่เรื่องข่าวปล่อยออกมาทำให้เกิดความสับสน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจได้เตรียมการไว้แล้ว

ตร.-ทหารยังตรึงทำเนียบฯ

สำหรับ บรรยากาศที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ได้มี เจ้าหน้าที่ของ กทม.เข้ามาเคลียร์พื้นที่กันตั้งแต่เช้า โดยเก็บเต็นท์และกวาดขยะที่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนบนถนนพิษณุโลก และถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม แต่บางพื้นที่แม้จะเก็บขยะไปแล้ว แต่ยังมีกลิ่นเหม็นรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณริมคลองเปรมประชากร หลังสำนักงานข้าราชการพลเรือน หรือ กพ. มีกลิ่นปัสสาวะเหม็นคละคลุ้ง ต้นไม้ประดับถูกฉี่ใส่จนเฉาตายไปหลายต้น ขณะที่พื้นที่ด้านในทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่รอบนอก มีทหารและตำรวจรักษาการเข้มงวด และห้ามไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านเข้าไปด้านใน

เปิดการจราจรได้บางส่วน

ด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบดูแลงานด้านการจราจร เปิดเผยว่า ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 15 เม.ย. จะเปิดให้ใช้ถนนทุกเส้นทางที่ปิดการจราจร ภายหลังจากกลุ่ม นปช.ประกาศสลายตัว ทั้งในเส้นทางถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ถนนพิษณุโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางเส้นทางที่ปิดการจราจรในช่องทางคู่ขนานอยู่ เช่น ช่องทางคู่ขนาน ถนนราชดำเนินนอก หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ช่องทางคู่ขนาน ถนนศรีอยุธยา หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากยังมีสิ่งกีดขวางที่จะต้องทำการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม ทั้งนี้ จากการตรวจสอบถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาล พบว่ามีกล้องวงจรปิดตามแยกสำคัญๆ เสียหาย 4 ตัว ที่แยกพาณิชย์ แยกลานพระบรมรูปทรงม้า แยกยมราช และแยกถนนศรีอยุธยา ขณะนี้ประสานให้เจ้าหน้าที่มาซ่อมแซมแล้ว นอกจากนี้พบเสาสัญญาณไฟจราจรถูกทำลายอีกจำนวนหนึ่ง เช่น ที่แยกผ่านฟ้า แยกยมราช แยกลานพระบรมรูปทรงม้า แยกนางเลิ้ง และแยกพาณิชย์ อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม

ตร.รื้อเต็นท์-เวทีรอบสนามหลวง

ขณะ ที่บรรยากาศที่ท้องสนามหลวง ในช่วงสาย ยังคงมีประชาชนนับร้อยคนร่วมตัวจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ ทางการเมืองตามเต็นท์ต่างๆ และตามใต้ต้นไม้ริมทางสนามหลวงด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจรัฐบาลที่ใช้ทหารสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อ แดง จากนั้นเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม นำตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร นับร้อยนายมารื้อเต็นท์และเวทีย่อยของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มรักเชียงใหม่ กลุ่มสภาสนามหลวง กลุ่มนักรบพระเจ้าตาก ที่ยังตกค้างอยู่ รวมทั้ง เต็นท์ของพ่อค้าแม่ค้าในท้องสนามหลวงที่มีอยู่นับสิบเต็นท์

เก็บเกลี้ยงข้าวของเสื้อแดง

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากรื้อเต็นท์แล้ว เจ้าหน้าที่ ยังยกแผงเหล็กของตำรวจนครบาลที่มีอยู่นับร้อยแผง ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกกลุ่มต่างๆ ยึดไปประกอบซ้อนกันเป็นเต็นท์ ที่พักชั่วคราวของกลุ่มต่างๆ นำขึ้นรถ 6 ล้อไปจนหมด จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดก็เข้ามาเก็บกวาดสิ่งของ ที่ยังตกค้างทั้งหมด ซึ่งมีผ้าและเสื้อสีแดงจำนวนมาก ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้แม้สร้างความไม่พอใจกับประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าใน บริเวณดังกล่าว แต่ไม่มีใครกล้าขัดขวางได้แค่บ่นว่าสีแดงไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม แม้รื้อเต็นท์ทั้งหมด แต่ยังคงมีประชาชนจับกลุ่มคุยเรื่องการเมืองกันต่อที่สนามหลวงฝั่งหน้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีตำรวจสายสืบ สน.ชนะสงคราม จับตาเฝ้าระวังอยู่อย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีการแจกใบปลิวและแผ่นพับใดๆ รวมทั้งไม่มีใครกล้าสวมเสื้อสีแดงมาชุมนุมด้วย

ยอดคนเจ็บ 135 ตาย 2

ส่วน ความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถาบันการแพทย์ ฉุกเฉินแห่งชาติ เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 15 เม.ย. มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทั้งหมด 135 ราย เสียชีวิต 2 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 45 ราย เป็นชาย 44 ราย หญิง 1 ราย ยังอยู่ในไอซียู 4 ราย เป็นชายทั้งหมด โดยอยู่ที่ รพ.ราชวิถี และรามาธิบดีแห่งละ 2 ราย ทั้งนี้โรงพยาบาล 12 แห่ง ที่ผู้บาดเจ็บยังนอนพักรักษาตัวอยู่ ได้แก่ รพ.ราชวิถี 5 ราย มี 2 ราย ยังอยู่ในไอซียู แต่อาการพ้นขีดอันตราย ส่วนรายอื่นอาการดีขึ้นและรอกลับบ้าน, รพ.รามาธิบดี 9 ราย, รพ.ทหารผ่านศึก 13 ราย, รพ.หัวเฉียว 3 ราย, รพ.กลาง 4 ราย, รพ.พระมงกุฎฯ 6 ราย, วชิระพยาบาล 2 ราย, รพ.ตำรวจ 1 ราย, รพ. คามิลเลียน 1 ราย, รพ.บางกอก 9 อินเตอร์ 1 ราย, สถาบันประสาทวิทยา 1 ราย และ รพ.เดชา 1 ราย

ไสว ทองอ้มอาการดีขึ้น

ปลัด สาธารณสุขกล่าวต่อว่า สำหรับนายไสว ทองอ้ม อายุ 40 ปี ที่มีข่าวลือว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ขอยืนยันว่าผู้ป่วยยังมีชีวิตอยู่ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.ราชวิถี โดยผู้บาดเจ็บรายนี้ เข้ามาที่โรงพยาบาล วันที่ 13 เม.ย. เวลาประมาณ 05.15 น. ด้วยอาการช็อก หมดสติ จากการเสียเลือด แพทย์ปั๊มหัวใจ ห้ามเลือด ให้เลือดและสารน้ำทางหลอดเลือดดำ จนผู้ป่วยพ้นภาวะช็อก จึงนำเข้าห้องผ่าตัด พบว่าผู้ป่วยมีแผลถูกยิงที่แขนซ้ายบริเวณรักแร้ กระสุนปืนตัดเส้นเลือด เส้นประสาทบางส่วนขาด แพทย์ต่อเส้นเลือดด้วยเส้นเลือดเทียม หลังผ่าตัดผู้ป่วยรู้สึกตัวดี และวันที่ 15 เม.ย. แพทย์นำผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง เพื่อดูเส้นเลือดที่ต่อไว้ พบว่าดีขึ้น จึงให้สังเกตอาการต่อที่ห้องไอซียู

ตั้งโต๊ะรับแจ้งคนหาย

นาย ชัยนรินทร์ กุหลาบอำ ผู้ประสานงานศูนย์ ข้อมูลรับเรื่องร้องเรียนคนหายจากกรณีการชุมนุมทางการเมืองเดือนเมษายนที่ กล่าวว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งโต๊ะแจ้งเบาะแสข้อมูลคนหายในกรณีเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับผู้ชุมนุม ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกรณีเฉพาะกิจผู้สูญหายจากเหตุการณ์ทางการเมือง โดยนอกจากจะรับแจ้งเบาะแสเรื่องรับข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จะทำหน้าที่สืบสวนหาศพผู้เสียชีวิตด้วย และจะทำหน้าที่ประสานงานผู้ได้รับบาดเจ็บว่าจะได้รับความช่วยเหลืออย่างไร ต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากเกรงว่า หลังจากที่มีการสลายการชุมนุมแล้ว อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาอีก อาทิ การปะทะกัน การก่ออาชญากรรมเงียบ การลอบทำร้าย หรือลักพาตัว เป็นต้น ศูนย์ดังกล่าวดำเนินการโดยคณะกรรมการสอบสวนข้อมูล 14 ตุลา สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เครือข่ายเดือนตุลา เครือข่ายนักเขียนศิลปินประชาธิปไตย พร้อมทั้งจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุแต่ละแห่ง ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนสามารถเข้ามาแจ้งเบาะแสได้ที่ บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. โทรศัพท์ 08-3812-5659 อีเมล์ ontontnong@hotmail.com

กทม.จัดงานทำบุญล้างซวย

ใน ส่วนของ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีแนวคิดที่จะทำบุญล้างซวยครั้งใหญ่ หลังจากเหตุการณ์การชุมนุมได้ยุติลง และรัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การทำบุญดังกล่าวถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของคนกรุงเทพฯ หลังจากที่เจอเหตุการณ์จลาจลครั้งใหญ่ เบื้องต้นนั้น อาจต้องหารือร่วมกับทางรัฐบาลด้วยว่าจะจัดงานที่ไหน หรือวันเวลาใด อย่างไรก็ตาม การทำบุญดังกล่าวคงไม่ถึงขั้นที่เป็นการทำบุญทั้งประเทศ แต่หากทางจังหวัดชลบุรีจะร่วมด้วยก็ไม่ขัดข้อง

เอาเรื่องม็อบทำลายของหลวง

ม. ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับทรัพย์สินของทางราชการที่เสียหาย เนื่องจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น จะต้องมีการสำรวจและแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอย่างแน่นอน เพราะทรัพย์สินทุกอย่างนั้นมาจากเงินภาษีของประชาชน เบื้องต้นนั้น ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าของทรัพย์สินที่เสียหายได้ อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มทุกกลุ่มที่จะจัดการชุมนุมครั้งต่อไปว่า อย่าได้เข้าทำลายศาสนสถาน หรือ โรงพยาบาลอีก ผู้สื่อข่าวถามว่าทรัพย์สินของ กทม.ที่เสียหายจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะ ดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าหากมีประจักษ์พยานว่าทำอะไรเสียหาย ก็ต้องดำเนินคดีเช่นกัน

เขตดุสิตเอาผิดแกนนำเสื้อแดง

ทาง ด้าน ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย ทรัพย์บุญมี ผอ.เขตดุสิต เปิดเผยว่าเขตดุสิตเตรียมที่จะแจ้งความเอาผิดกับแกนนำคนเสื้อแดงฐานไม่ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน เมือง พ.ศ.2535 ใน 3 ข้อหาคือ 1.ใช้เครื่องขยายเสียงในพื้นที่พระราชฐาน 2.ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในคลองเปรมประชากร และ 3.ตั้งเต็นท์ หรือเวที รวมถึงสิ่งกีดขวางอื่นในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่แกนนำไม่ชี้แจง หรือโต้แย้งในข้อหามาตามกำหนด 15 วัน หลังจากที่ทางสำนักงานเขตส่งหนังสือแจ้ง ทั้งนี้ทางเขตได้ส่งหนังสือแจ้งไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงการดำเนินคดีในรูปแบบเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าที่ ร.ต.เศวตชัย กล่าวว่าตนไม่ทราบ เพราะเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ผอ.เขตดุสิต เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ผอ.เขตคนเก่าก็ไม่ได้ดำเนินคดีใดๆ กับม็อบพันธมิตรฯ เลย

สัตว์เครียดทุกทีที่มีม็อบมา

นอก จากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าแม้กลุ่มเสื้อแดงจะยุติการชุมนุมไปแล้ว แต่ผลจากการชุมนุมได้สร้างผลกระทบให้สวนสัตว์ดุสิต หรือเขาดินวนาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ดุสิตรายหนึ่ง เปิดเผยว่า สวนสัตว์มีรายได้จากการจำหน่ายบัตรผ่านประตูปีละประมาณ 60-70 ล้านบาท ตามกำหนดเดิมโบนัสประจำปีของพนักงานจะออกเดือน ม.ค. แต่ผ่านมาถึงเดือน เม.ย. โบนัสยังไม่ออก เพราะรายได้หดหายจากเป้าเดิมไปหลายล้านบาท ยิ่งมาเจอสถานการณ์ความวุ่นวาย คนเลยไม่มาเที่ยว ตอนนี้ยังไม่อยากนึกถึงโบนัสเพราะยังไม่รู้ว่าสวนสัตว์จะมีเงินเดือนจ่าย พนักงานหรือเปล่า และไม่รู้เป็นเวรกรรมอะไร ม็อบแดง หรือม็อบเหลือง สวนสัตว์จะได้รับผลกระทบทุกครั้ง นอกจากคนจะเครียด สัตว์ก็เครียด ช้างพลายบุญเลิศเคยโมโหเสียงดัง เอางวงหยิบก้อนหินขว้างม็อบที่มาชุมนุมหน้ารัฐสภา จนเกิดความวุ่นวาย เพราะม็อบนึกว่าคนขว้าง จึงพากันบุกเข้ามาในสวนสัตว์

ดุสิตโพลชี้ม็อบทำให้แตกแยก

ขณะ ที่สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ที่มีต่อบทเรียนที่ฝ่ายชุมนุม ฝ่ายรัฐบาล และประชาชนทั่วไปได้รับจากการชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดง จำนวน 1,482 คน ระหว่างวันที่ 14-15 เม.ย.2552 โดยบทเรียนที่ฝ่ายผู้ชุมนุมได้รับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่าถูกต่อต้านจากประชาชนทั่วไป และได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย กับเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีและได้ไม่คุ้มเสีย ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่า บทเรียนที่ฝ่ายรัฐบาลได้รับ คือไม่ควรปล่อยให้ สถานการณ์ต่างๆ ยืดเยื้อจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ/การเอาจริง เอาจังและเข้มงวดกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง กับรัฐบาลต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติโดยเร็ว ส่วนบทเรียนที่ประชาชนทั่วไปได้รับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ระบุคือ ก่อให้เกิดความแตกแยก ความไม่สมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ กับสร้างความวิตกกังวล/เครียด/กลัวว่าอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

แดงเชียงใหม่ปลุกไม่ขึ้น

ส่วน ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ในจังหวัดต่างๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสาย นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของกลุ่มม็อบเสื้อแดงในภาคเหนือ ได้ออกประกาศเชิญชวนกลุ่มม็อบเสื้อแดง ให้มาร่วมแสดงพลังที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อต่อสู้เรียกร้องทวงคืนประชาธิปไตย สืบสานอุดมการณ์ต่อจากกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ ที่จำยอมต้องยุติการชุมนุมไปเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะถูกทหารกดดันอย่างหนัก รวมทั้งกล่าวโจมตีสื่อมวลชนไทยที่บิดเบือนการใช้อาวุธเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ ชุมนุมเสื้อแดง ทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีสื่อมวลชนไทยเสนอข่าวดังกล่าวออกไป รวมทั้งออกมาปฏิเสธเรื่องที่มีการตรวจยึดอุปกรณ์วางเพลิงภายในศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุว่า เป็นการใส่ร้ายเพราะกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่มีเพียงมือเปล่าๆ ปรากฏว่า มีกลุ่มคนมาชุมนุมเพียง 20 คน และส่วนใหญ่จะใส่เสื้อสีอื่นที่ไม่ใช่สีแดง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อไม่มีใครมาสมทบเพิ่มเติมกลุ่มคนดังกล่าวก็สลายตัว ไปอย่างสงบ

เล็งปิดวิทยุปลุกระดม

ด้าน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบการแพร่กระจายเสียงของคลื่นวิทยุชุมชนใน จ.เชียงใหม่จำนวน 3-4 สถานีอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการนำไปใช้ในทางไม่ถูกต้องปลุกระดมมวลชนออกมากระทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที เบื้องต้นเท่าที่รับรายงานมาขณะนี้มีอยู่ 1 สถานีที่อดีตเคยเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มเสื้อแดงใน จ.เชียงใหม่ ขอถอนตัวไม่ร่วมงานกับกลุ่มคนเสื้อแดงอีกต่อไปแล้ว

สื่อเทศชี้ มาร์คยังปึ๊ก

ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ ยังคงเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์การเมืองของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุ แม้เหตุรุนแรงทางการเมืองของไทยคลี่คลายลงอย่างสงบ หลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลบริเวณทำเนียบรัฐบาลนาน 3 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนเสื้อสีเหลือง ที่บุกยึดสนามบินเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ยังสามารถครองอำนาจปกครองประเทศได้ต่อไป แม้ต้องเสียหน้าจากการต้องสั่งยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เนื่องจากเหตุถูกประท้วงรุนแรงที่เมืองพัทยา นายเดนนี ริชาร์ดส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่งอิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิตในอังกฤษ ระบุรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์น่าจะอยู่ในอำนาจได้อีกระยะหนึ่ง ท่ามกลางสภาพอ่อนเปลี้ย เนื่องจากต้องมุ่งแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่กระทบทั่วโลก นอกเหนือจากยังต้องเผชิญเหตุประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงต่อไป ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้น ยังต้องการโค่นล้มรัฐบาลและต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่

เชื่อ ทักษิณไม่ยอมแพ้

ส่วน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานระบุความพยายามโค่นล้มรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องถดถอยลงอีก หลังกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยุติการประท้วงขับไล่รัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ลงชั่วคราว สภาพการณ์ดังกล่าวยิ่งทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น เพราะเหล่าแกนนำการชุมนุมประท้วงหลายคนถูกจับกุม นักการเมืองฝ่ายสนับสนุนหลายคนก็ตีตัวออกห่าง แต่อดีตนายกฯทักษิณคงยังไม่ยอมถอยง่ายๆ

รอหมายจับแกนนำแดงเชียงใหม่

ต่อมาในช่วงค่ำ มวลชนเสื้อแดง กลุ่มรักเชียงใหม่ 51กว่า 100 คน ที่มีนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล เป็นแกนนำ ได้มารวมตัวกันอีกครั้งที่บริเวณถนนด้านหน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ (หลังวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร) อ.เมืองเชียงใหม่ มีการปิดถนนอินทวโรรสช่วงหน้าโรงแรม โดยนำยางรถยนต์มาวางกั้น 2 ชั้นพร้อมกางเต็นท์ 2 หลัง มีการปราศรัยปลุกระดมเรียกร้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และปกป้องนายเพชรวรรตซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะถูกออกหมายจับ กรณีพาคนไปร่วมชุมนุมประท้วงที่กรุงเทพฯด้วย ทำให้บรรยากาศเริ่มตึง เครียดขึ้นมาอีกครั้ง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนคนที่มาชุมนุมมีจำนวนน้อยกว่าทุกครั้ง และส่วนใหญ่จะไม่สวมใส่เสื้อสีแดงอย่างที่เคยใส่ ขณะที่นายเพชรวรรตเก็บตัวเงียบ ซึ่งต่อมานายไพโรจน์ แสงภู่วงศ์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ (ฝ่ายความมั่นคง) ได้เรียกประชุมด่วนนายตำรวจและฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมชั้น 2 ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยมี พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก. เข้าร่วมหารือวางแผนเตรียมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวใช้เวลานานประมาณ 1 ชม.จึงเสร็จสิ้น โดยที่ประชุมมีคำสั่งให้เตรียมกำลัง นปพ.และตำรวจปราบ จลาจลรวม 2 กองร้อย เข้าไปควบคุมสถานการณ์ในจุดที่มีการปิดถนนประท้วง ขณะที่ ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ระบุว่า อยู่ระหว่างรอหมายจับจากทางกรุงเทพฯ เพื่อควบคุมตัวนายเพชรวรรตซึ่งเป็น 1 ในแกนนำคนสำคัญที่เกณฑ์คนไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ หากได้เมื่อไหร่ก็จะเข้าจับกุมนายเพชรวรรตทันที

ลือหึ่งแอบเผาศพเสื้อแดง

อย่าง ไรก็ดี เมื่อช่วงดึกมีประชาชนโทรศัพท์มาแจ้งว่า เห็นความผิดปกติที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ ย่านเกษตร-นวมินทร์ เพราะมีรถทหารมาจอดอยู่หลายคัน สงสัยว่าอาจมีการนำศพนิรนามมาเผา ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบ พบรถยีเอ็มซีของทหารจอดอยู่หน้าวัด 1 คัน และเมื่อจะเข้าไปภายในวัด ปรากฏว่า กลับถูกทหารในชุดลายพรางโบกมือไม่ให้เข้า แต่จากการสังเกตพบว่ายังมีรถยีเอ็มซีของทหารจอดอยู่ภายในวัดอีก 3 คัน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกวัด ได้ความว่ามีกลุ่มทหารเข้ามาที่วัดตั้งแต่เวลาประมาณตีหนึ่งของวันที่ 15 เม.ย. และนำรถเข้ามาจอดข้างในวัด แต่ ไม่รู้สาเหตุว่ามาทำอะไร และจากที่ไปถามคนขับรถเมล์เล็กสีแดง ที่ปกติจะวิ่งออกมารับส่งคน แต่เมื่อช่วงเช้าไม่มี ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติ ถึงรู้ว่ามีทหารเข้ามา เลยไม่กล้าวิ่งรับผู้โดยสาร ทำให้ตนเดือดร้อนมาก เพราะออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดไม่ได้ เมื่อถามว่า มีการนำศพอะไรมาเผาในช่วงนี้หรือไม่ ชาวบ้านคนดังกล่าวบอกว่า ไม่แน่ใจ แต่ถ้ามีการเผาจริง คนที่นอนในวัดคงจะบอกกันบ้าง เพราะรู้จักกันดี แต่คนในวัดไม่ได้พูดอะไร จึงไม่ยืนยันว่าจะเผาศพอะไรหรือไม่

จาก นั้น ผู้สื่อข่าวสังเกตว่ามีรถสายตรวจจาก สน.โชคชัย และรถฉลามบกของกองปราบฯ วนเข้ามาดูแล้วก็วนกลับออกไป ซึ่งเมื่อโทร.ไปสอบถามที่ สน.โชคชัย ก็ได้ความว่า ทหารที่มาเป็นทหารจากปราจีนบุรี มาขออาศัยนอนที่นี่ ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ตรงจุดนี้อยู่ใกล้กับห้างอิมพีเรียลฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีดีทีวี ที่ถูกทหารเข้าควบคุม เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา

0 ความคิดเห็น: